ทำชีวิตให้ง่าย ด้วยการตั้งเป้าหมายให้สูง
ทำชีวิตให้ง่าย ด้วยการตั้งเป้าหมายให้สูง
แค่หัวข้อก็คงทำให้หลายคนเริ่มไม่เชื่อ เริ่มสงสัยแล้วล่ะครับว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไร การตั้งเป้าหมายให้สูงนั้นมันน่าจะทั้งเหนื่อย
ทั้งกดดัน ทั้งต้องอดทน ต้องพยายาม ชีวิตมันจะง่ายได้อย่างไร เอาล่ะครับ ไม่ต้องสงสัยกันให้เสียเวลา ผมจะเล่าให้ฟังเดี๋ยวนี้เลย
1. ถ้าตั้งเป้าหมายสูง คุณจะมีคู่แข่งน้อย
เหมือนที่พี่บอย วิสูตรเคยบอกไว้ บนท้องฟ้ารถไม่ติด ผมยกตัวอย่างคนทำงานในองค์กรทุกที่นะครับ มีคน high performance 20% - 30% ถ้ามีพนักงานหมื่นคน ถ้าเราอยู่ตรงนั้น คู่แข่งเราก็ 2,000 - 3,000 คน ยิ่งถ้าเราขึ้นไปถึง performance 10% บนสุดขององค์กร คู่แข่งเรา จาก 10,000 คน จะเหลือแค่ 1,000 คน เอง แต่ถ้าเราไม่ได้ตั้งเป้าหมายให้สูง เราจะแข่งกับคน 7,000 - 9,000 คน ไม่เฉพาะการทำงานในองค์กรนะครับ ไม่ว่าคุณจะทำอะไรในโลกใบนี้ ในงานของคุณจะมีคนที่เก่งที่สุด 10% และถ้าคุณตั้งเป้าหมายสูง
คุณจะแข่งแค่กับคนพวกนั้นครับ อย่าไปแข่งกับคนเยอะๆเลย มันเหนื่อย เชื่อผมสิ
2.ถ้าตั้งเป้าหมายสูง จักรวาลจะมอบโอกาสให้คุณ
ผมเขียนให้ดูเวอร์ คำใหญ่ไปอย่างนั้นล่ะครับ จริงๆแล้วมันไม่ใช่จักรวาลหรอกครับ มันคือสายตาของตัวคุณเองกับคนรอบข้างคุณนั่นล่ะครับที่มอบโอกาสให้คุณ ผมยกตัวอย่างให้เข้าใจง่าย อย่างตัวผมเอง ผมตั้งเป้าหมายไว้อยู่แล้วว่าอยากจะทำอะไรบ้างในชีวิตนี้
ง่ายๆเช่น อยากจะเขียนหนังสือจิตวิทยาพัฒนาตัวเอง เวลาผมดูเพจใน facebook ผมก็จะเห็นเพจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการพัฒนาตัวเอง
กด like เพจพวกนี้ ในขณะที่คนอื่นๆอาจจะไม่เห็นเพจพวกนี้ก็ได้ เพราะไม่มีเป้าหมายที่แน่ชัดว่าตัวเองอยากจะทำอะไร ก็เลยเลื่อนดูไปเรื่อยๆ ดูเอาสนุกไปอย่างนั้นเองครับ นอกจากนั้นเพื่อนๆหรือคนรอบตัวก็จะคอยบอกผม ว่าเพจนั้นดี เพจนี้ดี สัมมนานั้นดี กูรูคนนั้นเก่ง
ให้ผมไปลองศึกษา ไปเรียนกับคนเหล่านั้น โดยที่ผมไม่ต้องไปคอยถามนะครับ ทุกคนอยากที่จะบอกเราเอง
เพราะเห็นว่าเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนในเรื่องนี้ เป็นอย่างไรครับ อยากจะตั้งเป้าหมายบ้างหรือยังครับ
3.ถ้าตั้งเป้าหมายสูง ถึงจะทำไม่ได้แต่คุณก็ยังอยู่ในจุดที่ดี
เหมือนคำที่เราคุ้นเคยจากโฆษณาตัวนึงในอดีตล่ะครับ "ตีลูกให้ถึงดวงจันทร์ ถึงพลาดก็ยังอยู่ท่ามกลางดวงดาว"
เรื่องนี้เข้าใจง่ายมาก คุณตั้งเป้าหมายที่ 100 แต่ทำได้แค่ 80 อย่างไรก็ยังมากกว่าคนที่ตั้งเป้าหมายที่ 50 เพราะเค้าก็จะทำได้อย่างมากแค่ 50 นั่นล่ะครับ แต่เรื่องง่ายๆแบบนี้ คนส่วนใหญ่ทำไม่ได้ ไม่กล้าทำ เพราะแค่เหตุผลไม่กี่ข้อล่ะครับ และส่วนใหญ่ขึ้นต้นด้วยคำว่ากลัว
กลัวความล้มเหลว กลัวเสียหน้า กลัวอาย กลัวเหนื่อย กลัวเครียด ผมอยากท้าทายให้ทุกคนลองดูนะครับ ลองเปลี่ยนความกลัวพวกนี้เป็นความกลัวชนิดใหม่ๆ กลัวเสียโอกาส กลัวไม่ได้ใช้ศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มที่
กลัววันเวลาผ่านไปอย่างไร้ค่า กลัวไม่ได้ใช้ชีวิตที่ดีที่สุด ลองดูนะครับ
4.ถ้าตั้งเป้าหมายสูง คุณจะใช้เวลาทุกนาทีอย่างคุ้มค่าโดยอัตโนมัติ
คนเรามี 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่มีวิธีใช้ไม่เหมือนกัน และหลายครั้งที่เรามักจะเห็น content ต่างๆ ที่พูดถึงวิธีการใช้เวลาของคนที่ประสบความสำเร็จ ว่ามันเหมือนหรือแตกต่างกับคนธรรมดาอย่างไร แน่นอนมันแตกต่างครับ แต่ไม่ได้เกิดจากที่ว่าเขาเป็นคนเก่งกว่าเราหรือมีวินัยกว่าเราหรอกครับ แค่เป็นเพราะเขามีเป้าหมายที่ชัดเจน และเป็นเป้าหมายที่สูงด้วยเช่นกัน พอเป้าหมายสูง และเขามีเวลาวันละ 24 ชั่วโมง แถมยังต้องกินต้องนอนเหมือนเรา เพราะฉะนั้นช่วงเวลาที่ไม่ได้หลับ ไม่ได้กิน เขาก็จะต้องใช้มันอย่างดีที่สุด เพื่อทำให้เป้าหมายนั้นใกล้เข้ามาให้ได้ และเมื่อเป็นอย่างนั้น เขาก็จะรู้ตลอดเวลาว่า ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวัน เขาจะต้องทำอะไร กลับกันถ้าเราไม่มีเป้าหมาย หรือมีเป้าหมายที่ง่ายๆ บางทีเรานั่งอยู่ว่างๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ควรจะทำอะไรดี แล้วก็ทิ้งเวลาไป วันนึงรู้ตัวอีกทีก็อายุมากเกินกว่าจะทำอะไรแล้ว เอาล่ะครับ ถ้าอยากจะใช้เวลาอย่างมีคุณภาพ
ไม่ต้องไปใช้วิธีหรูหราอะไรมากมายมาจัดการกับตารางเวลาของตัวเอง แค่ตั้งเป้าหมายให้สูงก็พอครับ
5.ถ้าตั้งเป้าหมายสูง คุณจะรู้สึกว่าใช้ชีวิตสนุกมากขึ้น เพราะหัวใจคุณจะเต้นแรงตลอดเวลา
บางทีคนเราอยู่ใน comfort zone นานๆ มันก็สบายดีนะครับ เพียงแต่มันจะไม่มีจังหวะที่หัวใจเต้นแรง จังหวะที่หัวใจเต้นผิดปกติ
จังหวะที่รู้สึกเหมือนว่าเรากำลังจะข้ามไปพรมแดนใหม่ๆในชีวิต จังหวะที่เราไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นอย่างไร รู้แต่ว่าอยากไป
มันเหมือนเป็นความรู้สึกที่ได้กลับมาเป็นวัยรุ่นนั่นเอง ซึ่งทั้งหมดนั้น มันจะเกิดขึ้นเมื่อคุณตั้งเป้าหมายให้สูง
และเดินทางไปหามันนั่นเองครับ เอาล่ะ รออะไรกันอยู่ล่ะครับวัยรุ่น ออกไปลุยกันดีกว่าา
เป็นกำลังใจให้ทุกคนตั้งเป้าหมายให้สูงนะครับ ชีวิตจะได้ง่ายขึ้น
