4 วิธี หนีออกจากการตั้งเป้าหมายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ที่คนอยากก้าวหน้าในโลกยุคใหม่ ต้องรีบทำตามให้เร็วที่สุด
แน่นอนว่าเหมือนทุกปี เมื่อขึ้นปีใหม่เรามักจะคิดถึงการตั้งเป้าหมายขึ้นมาอีกครั้ง เป้าหมายยอดฮิตก็ไม่ต้องคิดกันให้มากมาย ถามใครต่อใครก็ได้คำตอบไม่แตกต่างกัน จะลดความอ้วน จะเก็บเงินให้มากขึ้น จะกินเหล้าให้น้อยลง จะเลิกสูบบุหรี่ให้ได้ จะมีเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้น นั่งคิดไปคิดมาผมก็พบเจออะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ภายใต้เป้าหมายเหล่านี้ สังเกตหรือเปล่าครับว่า เกินครึ่งของเป้าหมายที่เราตั้งในปีใหม่นั้น แท้ที่จริงแล้วเป็นเป้าหมายของปีที่แล้ว และถ้าลองนึกย้อนไปอีกก็อาจจะค้นเจออีกว่า มันก็เป็นเป้าหมายของปีก่อนหน้านี้อีกเช่นกัน
เหตุผลที่เราตั้งเป้าหมายแล้วทำไม่สำเร็จนั้นมันมีอยู่สี่ข้อครับ
ข้อแรกคือเราตั้งเป้าหมายไม่เร้าใจ เช่นเวลาที่ตั้งใจว่าจะลดน้ำหนักให้ได้เท่านั้นเท่านี้ เมื่อถึงเวลาจะลงมือทำจริงๆ ใจก็จะคิดถึงอยู่แต่ตัวเลขบนตาชั่ง คิดถึงแต่น้ำหนักที่จะลดให้ได้ แล้วถามว่าตัวเลขพวกนั้นมันเร้าใจมากนักหรือไง มันสร้างแรงบันดาลใจให้เราทำตามเป้าหมายหรือเปล่า ผมว่าทุกคนก็คงจะตอบได้ตรงกันนะครับ ว่าไม่เลย มันไม่ได้สร้างแรงจูงใจแม้แต่น้อย แล้วแบบไหนล่ะที่จะสร้างแรงจูงใจให้เราทำตามเป้าได้ เราก็ต้องตั้งว่า อยากจะกลับมาใส่กางเกงยีนส์ตัวโปรดให้ได้ไงล่ะครับ หรือไม่ก็จะต้องมีกล้ามท้องสวยงามเพื่อที่จะถ่ายรูปอวดสาวๆให้ได้ นั่นล่ะครับเป้าหมายที่เร้าใจและจะทำให้เราทำสำเร็จได้จริงๆ
เหตุผลข้อที่สองก็คือเราตั้งเป้าหมายเยอะเกินไปครับ พอถึงต้นปีเราก็ตะบี้ตะบันตั้งเป้าหมาย 7-8 ข้อ ตอนแรกๆก็ไฟแรงทำตามได้ทุกข้อ แต่ผ่านไปไม่นานไฟก็เริ่มมอดลงไปทุกที พอมีเวลาน้อยลงก็เลือกไม่ถูกว่าจะทำตามเป้าหมายข้อไหนดี สุดท้ายก็เลยเลิกมันเสียหมด ไม่ต้องทำอะไรเลย หมดเรื่องหมดราวกันไป วิธีที่ถูกคือค่อยๆตั้งไปทีละ 1 – 2 ข้อ แล้วก็ทำมันให้สำเร็จเสียก่อน ทำสำเร็จแล้วค่อยตั้งใหม่ก็ไม่เสียหายอะไร ตั้งทีละน้อยแล้วก็ค่อยๆลงมือทำไป แบบนี้มันก็จะสำเร็จได้ง่ายกว่า เพราะเมื่อมีเวลาก็ไม่ต้องเลือกว่าจะทำอะไร เพราะเป้าหมายเรามีน้อย สามารถเลือกทำได้ตามสบาย
นอกจากตั้งไม่เร้าใจและเป้าหมายเยอะเกินไปแล้ว ข้อที่สามก็คือตั้งเป้าหมายใหญ่เกินไป ไม่ได้หมายความว่าใหญ่จนทำไม่ได้นะครับ แต่มันใหญ่จนต้องใช้เวลานานกว่าจะสำเร็จ ในระหว่างนั้นมันก็เลยท้อไปก่อนนั่นเอง มันต้องตั้งเป้าหมายย่อยๆหลายๆข้อ เพื่อจะพิชิตและเดินทางไปเรื่อยๆจนกระทั่งสำเร็จข้อใหญ่ คือต้องให้รางวัลตัวเองตลอดเวลาว่าเราทำงานถึงเป้าหมายได้แล้ว ไม่ใช่ว่าเป้าหมายนี้ต้องใช้เวลา 3 – 5 ปี แล้วจึงจะพบเจอกับความสำเร็จครั้งแรก ถ้าอย่างนี้เป็นใครก็ท้อกันหมดแน่ เพราะฉะนั้น เอาเป้าหมายใหญ่มาซอยย่อยดีกว่า ค่อยๆทำไปทีละน้อย สำเร็จทุกสัปดาห์ อย่างนี้มีกำลังใจมาก
กว่าแน่นอน
ข้อสุดท้ายที่ทำให้เราทำไม่สำเร็จก็ง่ายๆครับ เรายังไม่ได้อยากจะทำมันจริงๆแต่ตั้งเป้าหมายเอาหล่อไปอย่างนั้น คือเห็นเขาตั้งก็ตั้งบ้าง รู้สึกอยากทำบ้างไม่ทำบ้างก็ตั้งไป อันนี้ก็แน่นอนว่า สักพักก็หยุดทำอย่างแน่นอน ข้อนี้วิธีแก้ก็คือเขียนเป้าหมายไว้ก่อน แล้วก็มาดูมันบ่อยๆ ยังไม่ต้องรีบลงมือทำแต่นั่งจ้องมันไปเรื่อยๆก่อน จ้องนานๆให้รู้ว่าเราอยากทำมันจริงๆหรือเปล่า ถ้ามันใช่จริงๆก็ค่อยตั้งเป็นเป้าหมายที่แท้จริงแล้วลงมือทำ
จะได้มั่นใจว่านี่คือสิ่งที่อยากทำจริงๆ แล้วโอกาสสำเร็จมันก็จะได้มากกว่าเดิม
ลองดูนะครับ มันย้อนแย้งแต่ก็น่าสนใจดีเหมือนกัน ก็ถ้าเราตั้งเป้าหมายแรกในปีนี้ว่า เราจะทำตามเป้าหมายอื่นๆที่ตั้งไว้ให้สำเร็จให้จงได้
มันก็ดูน่าสนุกดีเพราะทุกเป้าหมายที่เราตั้งหลังจากนี้มันจะมีสองเป้าหมายซ้อนอยู่ด้วยกัน เราจะต้องลดน้ำหนักให้ได้และก็จะต้องทำตามเป้าหมายการลดน้ำหนักให้ได้ แค่คิดก็รู้สึกไฟลุกขึ้นมาแล้วสิ
เอาล่ะครับ ไม่ว่าเป้าหมายของทุกคนจะคืออะไร ผมเป็นกำลังใจให้พวกคุณทุกคนหนีออกมาจากวังวนเดิมๆของการตั้งเป้าหมายให้ได้
ปีนี้จะไม่เหมือนทุกปีที่ผ่านมา และเชื่อเถอะครับว่าการหนีครั้งนี้มันคุ้มค่าจริงๆ