“เมื่อฉันอายุ 30”
ระหว่างกำลังขับรถกลับบ้านตอนค่ำๆ ผมเปรยบอกแฟนที่นั่งข้างๆว่า ความลับของที่ทำงานออกมาหลายเดือนแล้ว ยังคิดต้นฉบับใหม่ไม่ออกเลย ความเงียบเข้าเกาะกุมในรถสักพักใหญ่ แล้วก็เป็นเธอที่ทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน เราเขียนถึงสิ่งที่เราได้เรียนรู้ในวัยนี้กันดีไหม ประโยคเดียวในค่ำคืนนั้นปลดล็อคต้นฉบับใหม่ของผมทั้งหมด เช้าวันถัดมาผมเริ่มกระบวนการสอบถามตัวเอง ชีวิตที่ผ่านมาเรียนรู้อะไรมาบ้าง จะว่าง่ายก็ง่ายแต่จะว่ายากมันก็ยาก เพราะบางทีเราก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรชีวิตมากมายขนาดนั้น แต่สุดท้ายผมก็ใช้เวลาร่วมเดือนเพื่อรวบรวม 30 หัวข้อนั้นออกมา ถัดจากนั้นใช้เวลาอีก 2 เดือนเพื่อเติมเต็มรายละเอียดในแต่ละหัวข้อ จะว่าไปนี่ถือเป็นต้นฉบับที่ผมทำงานนานที่สุด บอกตามตรงในตอนที่ผมเขียนเสร็จผมไม่ค่อยเชื่อมั่นในตัวมันเท่าไร อาจเพราะมันดูไม่มีจุดร่วมกันในแต่ละหัวข้อ และผมก็ไม่ใช่คนดังในวงการใดๆ แล้วใครล่ะจะมาสนใจประสบการณ์ของผม คราวนี้ผมได้สำนักพิมพ์ใหม่มาร่วมงานด้วยอีกครั้ง สิ่งที่แตกต่างคือการคุยกันครั้งนี้เราคุยกันไว้ว่าอาจจะมีการร่วมงานกันยาวๆมากกว่าหนึ่งเล่ม อีกทั้งนี่เป็นครั้งแรกที่ต้นฉบับผมถูกบรรณาธิการมืออาชีพให้ทัศนะในการปรับแก้ไข และผมก็ยึดถือในคำแนะนำนั้นตลอดมา เห็นหน้าปกและเนื้อในครั้งแรกผมชอบมัน สีเหลืองอาจจะไม่ใช่สีที่ผมชอบมากนักแต่โดยภาพรวมทั้งเล่มผมกลับชอบ ถึงกระนั้นก็มีหลายคนติติงมาว่าสีนี้มันอ่านยาก ผมก็ยินดีน้อมรับฟัง พอหนังสือวางขายทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ผมได้รับ feedback กลับมาค่อนข้างดีและก็มีจำนวน feedback ที่เยอะมากกว่าสองเล่มก่อนนี้รวมกัน เพียงไม่นานผมก็เห็นเล่มพิมพ์ครั้งที่ 2 ออกมา แน่นอนนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่หนังสือผมถูกพิมพ์เพิ่มครั้งที่ 2 มากไปกว่านั้น “เมื่อฉันอายุ 30” ปัจจุบันยังมีการพิมพ์ครั้งที่ 3 ออกมาแล้ว วางแผงมาประมาณ 6 เดือนกับการพิมพ์ 3 ครั้งและยอดขายแซง “ความลับของที่ทำงาน” ไปแล้ว นอกเหนือจากนั้นผมยังมีอีกสองงานที่ต่อยอดมาจากหนังสือเล่มนี้ ถือเป็นอีกเล่มนึงที่เปิดประตูสู่เวทีนักเขียนให้กว้างขึ้นไปอีก พอมียอดขายที่ดี ผมจึงนั่งลงอ่านหนังสือตัวเองอีกครั้ง แล้วก็พบว่ามันสื่อสารกับคนอ่านได้ดีกว่าสองเล่มก่อนหน้านี้ เพราะผมเอาชีวิตของผมมาตีแผ่ให้ได้เรียนรู้กัน ผมขอขอบคุณทุกคนที่ร่วมทำให้หนังสือเล่มนี้ขายดี และถ้าใครยังไม่ได้อ่าน ผมก็อยากจะเชิญชวน ถ้าคุณอ่านจบก็เหมือนสนิทกับผมไปเรียบร้อยแล้ว มีน้องคนนึงบอกผมว่า ไม่แน่นะหนังสือเล่มนี้ของพี่อาจจะขายดีไปอย่างยาวนานเลยก็ได้ ผมถามเขาว่าทำไม “ก็โลกของเรามีคนอายุสามสิบเพิ่มขึ้นทุกวันไงครับพี่” นั่นสินะ
0 Comments
|
Authorโค้ชเอก |