5 หนังกระแทกใจผมในปี 2016
ผมเป็นคนชอบดูหนังมากและจะดูหนังในโรงหนังเป็นประจำแทบทุกสัปดาห์
เริ่มดูหนังในโรงภาพยนตร์เรื่องแรกคือ liar Liar ที่จิม แครรี่ย์เล่นเมื่อปี 1997
จากนั้นก็ดูเรื่อยมาตามกำลังทรัพย์ที่มี
ยิ่งพอหาเงินเองได้ก็ดูอย่างหนักหน่วงมาตลอด
กลับมาที่ปี 2016 ซึ่งเหลืออีกแค่ 2 วันก็จะหมดปี
และคาดว่าไม่น่าจะได้ดูหนังเพิ่มอีกแล้ว
ผมก็เลยอยากจะชวนทุกคนมาแชร์กันเรื่องหนังดีๆที่ได้ดูในปีนี้กันนะครับ
สำหรับผม ปีนี้ดูหนังไปทั้งหมด 56 เรื่องด้วยกัน
และอยากจะจัดอันดับ 5 หนังที่กระแทกใจผมในปีนี้มาแชร์กับทุกคนนะครับ
โดยหนังที่เข้ารอบมามีทั้งหมด 12 เรื่องจาก 56 เรื่องด้วยกัน
ประกอบไปด้วย แต่น แต่น แต๊นนนนนน
Sully, 13 hours, joy, Equal, พรจากฟ้า, Fanday,
The Light Between Oceans, 20 ใหม่หัวใจยูเทิร์น, The Street cat name Bob, Sing street, your name, และ Dr strange,
ตึ๊ง ตึ๊ง ตึ๊ง ตึงงงงงงงงง และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
อันดับ 5 ได้แก่ แก่ แก่ แก่
Equal ฝ่ากฏล้ำโลกห้ามรัก และ Fanday แฟนกันแค่วันเดียว
สองเรื่องร่วมกันครับ ตัดใจเลือกไม่ได้จริงๆ
หลายคนอาจจะเฉยๆกับหนัง 2 เรื่องนี้
โดยเฉพาะ Equal แต่สำหรับผม ผมชอบภาพ เสียงเพลง
เสียงดนตรี ใน Equal มาก แต่ที่สำคัญที่สุดคือชอบ design
สถานที่ เครื่องแต่งกาย เฟอร์นิเจอร์ ทุกสิ่งทุกอย่างในเรื่อง
โทนสี นี่คือโลกแบบเดียวกับโลกอนาคตในจินตนาการของผม
มันกระแทกใจจริงๆครับ
ส่วน Fanday นั้น เหตุผลเดียวสั้นๆคือชอบนางเอก น้องมิว นิษฐา
มากๆครับ ชอบเครื่องหน้า ชอบรอยยิ้ม ชอบเสียงพูด ชอบตอนร้องไห้
ชอบฝีมือการแสดง ชอบทุกอย่างของคุณนุ้ยจริงๆ
และด้วยความที่เคยเป็นผู้ชายที่ไม่มีใครเหลียวแลแบบเด่นชัยมาก่อน
ก็เลยอินเข้าไปใหญ่เลยครับ
สรุปว่าก็ขอยกให้ 2 เรื่องนี้ ได้อันดับ 5 ไปด้วยกันครับผมมมมมมมม
และอันดับ 4 ได้แก่ๆๆๆๆ
พรจากฟ้าฟ้าฟ้าฟ้า และ The light between oceans เราต่างหลงทางในแสงสว่าง
ทุกคนคงรู้จักและก็น่าจะได้ดูพรจากฟ้ากันนะครับ
เป็นหนังอบอุ่นดูแล้วยิ้ม ร้องไห้ มีความสุข อินกับเรื่องราวของพวกเขาไปตลอดทั้งเรื่อง พระเอกนางเอกทั้ง 3 คู่ก็มีสเน่ห์มากทุกคน
ดูไปก็ยิ้มไปตลอดทั้งเรื่อง เดินออกมาก็ยังรู้สึกอิ่มเอม
เสียอย่างเดียวหนังฉายเร็วไปหน่อย
ถ้าใกล้ปลายปีกว่านี้ก็จะฟินไปอีกนะครับ
แนะนำให้ทุกคนไปดูนะ
ส่วน The light between oceans หลายคนอาจจะไม่ได้ดูกันนะครับ
ไม่ใช่หนังฟอร์มใหญ่อะไร แต่แค่ชื่อไทยก็กระแทกใจผมมากแล้วครับ
"เราต่างหลงทางในแสงสว่าง" หนังทำมาจากนิยายชื่อเดียวกัน หนังเล่นประเด็นที่พระเอกนางเอกจะต้องตัดสินใจเลือกระหว่างความถูกต้องทางศีลธรรมกับความรักและความสูญเสีย เป็นประเด็นที่กระแทกผมทุกเรื่อง
ไม่ว่าหนังเรื่องไหนจะเล่นประเด็นนี้ และที่โดนใจกว่านั้นคือฉากหลังของเรื่องที่เป็นทะเลที่เคว้งคว้าง อ้างว้าง เปลี่ยวเหงาอย่างรุนแรง
และเป็นหมู่บ้านเล็กๆ อบอุ่นๆ ที่อยู่ห่างไกลความเจริญ อันนี้ก็โดนมากๆครับ และที่สำคัญที่สุดคือการแสดงของไมเคิล ฟาสเบนเดอร์
ที่มาพร้อมกับแววตาที่มีความหมายมากๆ
และเขายังตกหลุมรักกับนางเอก อลิเซีย วิกันเดอร์ ที่พึ่งได้รางวัลออสการ์ นักแสดงสมทบหญิงจาก The Danish Girl ในกองถ่ายด้วย
ทำให้เล่นด้วยกันอย่างโรแมนติกมากกกกกก ไปลองหาดูกันนะครับ
มาถึงอันดับ 3 แล้วนะครับ อันดับ 3 คือออออออ
20 ใหม่ หัวใจยูเทิร์น เทิร์นๆๆๆๆ
คือถ้าต้นปีผมคิดว่าตัวเองจะจัดอันดับ แล้วบอกว่าเรื่องนี้จะติดอันดับ
ผมก็คงจะขำตัวเองแน่ๆ
เพราะหน้าหนังนั้นไม่น่าดูเลยสำหรับผม ดู trailer แล้วก็ยังไม่อยากดูอยู่ดี
แต่พอหนังฉายแล้วกระแสดีมากๆ ประกอบกับตอนนั้นไม่มีหนังอะไรจะดู
ก็เลยเข้าไปดูความหล่อของพี่ก้องสักหน่อย
ผลปรากฏว่า โดนไปเต็มๆครับ หนังพูดเรื่องการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า มีความหมาย การทำตามความฝัน ทำตามหัวใจตัวเอง
ทุกอย่างเป็นประเด็นที่ผมชื่นชอบและสนใจมาโดยตลอด
ประกอบกับการแสดงแบบสุดยอดของน้องใหม่ ดาวิกา
ก็ทำให้หนังเรื่องนี้ได้ใจผมไปเต็มๆ ปีใหม่ใครว่างๆลองหาดูนะครับ รับรองไม่เสียเวลาอย่างแน่นอน แล้วคุณจะใช้ชีวิตตัวเองได้คุ้มค่ากว่าเดิมแน่ๆ เพราะในความจริง เราไม่สามารถย้อนเวลาได้นะครับ
ใกล้เข้ามาแล้ววววววว อันดับ 2 ได้แก่ๆๆๆๆ
สองเรื่องเหมือนเคยครับ เป็นคนตัดใจไม่ค่อยเก่ง อิอิ
คือเรื่อง Joy เธอสู้เพื่อฝัน และ The street cat name Bob ครับผม
เรื่องแรก jennifer lawrence แสดงให้เราเห็นถึงการต่อสู้ของผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึง ที่้ต้องการจะมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม
ต้องการจะสร้างรายได้ให้มากขึ้นและที่สำคัญที่สุดคือต้องการจะเดินตามความฝันของตัวเอง
เธอต้องเจอเหตุการณ์มากมายที่เป็นอุปสรรค
ยากจะเอาชนะ ต้องโดนฉุดรั้งจากหลายสิ่งหลายอย่างรอบตัว
แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ผ่านมันไปได้ด้วยกำลังใจที่แข็งแกร่งและความมุ่งมั่นทุ่มเทแบบเหนือมนุษย์มนา
หนังเรื่องนี้เป็นผลงานกำกับของ David O.Russell ซึ่งผมชอบ The Fighter และ Silver Linings Playbook ของเขาอยู่แล้ว
ก็เลยมีแต้มต่อในใจเล็กๆ แต่พอไปดูจริงๆ ต้องบอกว่ายอมจริงๆครับ น้ำตาไหลด้วยความอิ่มเอม ได้รับพลังกลับมาเยอะมาก
และรู้เลยว่า การจะไปถึงจุดที่เป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่ใครก็ทำได้เลยจริงๆ
แต่ Joy เธอทำได้ ปรบมืออออออออ
อีกเรื่องคือ Bob ครับ ผมไม่ได้เป็นคนชอบแมวมากถึงขนาดจะไปดูเรื่องนี้เพราะเจ้า Bob แต่เมื่อไปดูแล้วเจอกับฉากหลังในอังกฤษ
และจังหวะของหนังที่ต่างจากหนัง Hollywood จากฝั่งอเมริกา ประกอบกับบทหนังที่พูดถึงผู้ชายเร่รอน
เป็นคนจรจัดที่ใช้ชีวิตกับการติดยาเสพติด ซึ่งเปรียบไปก็คือคนไม่มีที่ยืนในสังคม ได้เห็นการต่อสู้ของเขา
ท่ามกลางการดูถูกเหยียดหยาม และท่ามกลางสังคมที่ไม่ให้โอกาสกับคนเหล่านี้
ดูแล้วทั้งซึ้ง เศร้า เหงา และก็อิ่มเอม ไปด้วยพร้อมๆกัน ต้องบอกว่า James Bowen ตัวเอกในเรื่องต้องสู้จากติดลบนะครับ
ไม่ใช่แค่จากศูนย์ และอย่างที่ทราบกัน หนังเรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริง และมีหนังสือเรื่องนี้ที่ขายดีไปแล้วทั่วโลกด้วย
ยังไงแนะนำให้ไปดูกันนะครับ ต่อให้คุณจะไม่ชอบแมวเลย หนังเรื่องนี้ก็ยังคงเป็นหนังที่ดีมากๆสำหรับปีนี้ครับผม
และอันดับ 1 ได้แก่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปรบมือให้กับบบบบบบบบบ Sing Street รักใครให้ร้องเพลงรัก ครับผมมมมม
เรารู้กันอยู่แล้วว่าหนังเรื่องนี้ผู้กำกับคนเดียวกับ Begin Again และ once ซึ่งสำหรับผม Once นั้นดีแต่ยังไม่กระแทกใจมาก
แต่ Begin Again นั้นขึ้นหิ้งหนึ่งในหนังที่ดีที่สุดในชีวิตของผม และแน่นอนมันทำให้ผมไม่สามารถพลาดการดู Sing Street ได้
ซึ่งแน่นอนสิ่งที่คาดหวังคือต้องมีเพลงเพราะๆ จังหวะปล่อยเพลงดีๆ และฉากหลังในสหราชอาณาจักรสวยๆ
ซึ่งอย่างที่รู้กันครับ ได้รับครบถ้วนอย่างไม่ผิดหวัง และแน่นอน Go Now ก็เป็นเพลงที่หลายคนฟังวนไปเป็นเดือนเป็นปี
อย่างน้อยๆก็ผมคนนึงล่ะครับ
หนังเล่นประเด็นของความฝัน ฝันที่จะมีชีวิตที่ดีกว่า ชีวิตที่ตัวเองต้องการอย่างแท้จริง บวกกับ comming of age และประเด็นของคนหนุ่มสาวที่คิดว่าเมืองหรือประเทศที่ตัวเองอยู่ไม่ตอบโจทย์ความฝัน
จึงจำเป็นที่จะต้องก้าวไปในดินแดนต่างถิ่นเพื่อค้นหาความฝัน สำหรับผมเรื่องนี้ไม่ใช่แค่กระแทกใจ
แต่ทำให้ใจสั่นสะท้านเลยทีเดียว ความแปลกแยกและมีสเน่ห์ของนางเอก บวกกับความเท่ขึ้นเรื่อยๆของพระเอก
ความรักและเคมีระหว่างสองคนที่น่าสนใจมากๆ ประกอบกับประเด็นที่หนังต้องการจะสื่อ เมื่อบวกกับเพลงและภาพดีๆ
มันทำให้เราแทบไม่อยากจะให้หนังจบเลยทีเดียว อยากจะนั่งดูไปเรื่อยๆๆๆๆๆ
ถ้าใครยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ แนะนำนะครับ ใครรักดนตรี ใครมีความฝัน ใครต้องการจะใช้ชีวิตที่ใช่ในแบบของตัวเอง
ควรต้องดูเป็นอย่างยิ่ง สำหรับผม ดูจบแล้วถึงกับนอนไม่หลับ อยากจะขึ้นเรือข้ามไปลอนดอนแบบพระเอกทันที
เพราะกลัวจะเป็นได้แค่พี่ชายที่คอยปล่อยเชือกและโบกมือให้น้อง พร้อมกับบอกตัวเองว่าเราแก่เกินไปที่จะไปเสี่ยงโชคเสียแล้ว
เอาล่ะครับ และนี่คือหนังที่ดีที่สุดของผมในปีนี้
และผมยกให้เป็นหนึ่งในหนังที่ดีที่สุดในชีวิตอีกเรื่องนึงเหมือน Begin Again ไปเรียบร้อยแล้วครับ ปรบมือออออ
และนี่ล่ะครับคือ 5 อันดับหนังที่กระแทกใจผมในปี 2016 นี้
5 อันดับแต่มี 8 เรื่องด้วยกัน
สรุปตามนี้ครับ
อันดับ 5 Equal ฝ่ากฏล้ำ โลกห้ามรัก และ Fanday แฟนกันแค่วันเดียว
อันดับ 4 พรจากฟ้า และ The light between oceans เราต่างหลงทางในแสงสว่าง
อันดับ 3 20 ใหม่ หัวใจยูเทิร์น
อันดับ 2 Joy เธอสู้เพื่อฝัน และ The street cat name Bob บ๊อบ แมวเพื่อนคน
และอันดับ 1 Sing Street รักใครให้ร้องเพลงรัก
ขอบคุณทุกคนที่อ่านนะครับ อยากรู้อันดับหนังในใจของทุกคนนะครับ มาแชร์กันนะ